เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการมณฑลทหารที่33 (มทบ. 33 ค่ายกาวิละ) เพื่อขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหากระเทียมตกต่ำ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2557 เวลา 11.30 น เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายมนิตย์ ลำไพเราะ นายอนันต์ รุ่งเรือง และ นายจรัญ กล้าหาญ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ. 33 ค่ายกาวิละ) เพื่อยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคากระเทียมตกต่ำ โดยมีข้อเสนอดังนี้
มาตรการระยะสั้น
1. ชะลอการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศจนกว่ากระเทียมภายในประเทศจะหมดและสกัดกั้น ปราบปรามการลักลอบนำเข้ากระเทียมโดยผิดกฎหมาย
2. ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 40 บาท และรับซื้อหอมแดง ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20 บาท
3. ขอให้ลดดอกเบื้ยเงินกู้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินและช่วยเหลือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ1 ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในฤดูการผลิต 2557/58
มาตรการระยะยาว
1. ขอให้ทบทวนข้อตกลง FTA และ AEC โดยกำหนดให้กระเทียมเป็นพืชเศรษฐกิจที่อยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive List - HSL) เพิ่มภาษีนำเข้า เพื่อให้กระเทียมไทยสามารถแข่งขันด้านราคากระเทียมจากต่างประเทศได้ และประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกกระเทียมจึงไม่มีความจำเป็นต้องได้สิทธิพิเศษในการส่งออก
2. จดทะเบียนเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่เป็นสมาคมผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่
3. ให้สมาคมผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่จัดทำแผนแม่บทพัฒนาอาชีพผู้ปลูกกระเทียม
4. ให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรี (กองทุน FTA) สนับสนุนงบประมาณตามแผนแม่บทพัฒนาอาชีพปลูกกระเทียมที่สมาคมฯ และสภาเกษตรกรจัดทำขึ้น
มาตรการระยะสั้น
1. ชะลอการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศจนกว่ากระเทียมภายในประเทศจะหมดและสกัดกั้น ปราบปรามการลักลอบนำเข้ากระเทียมโดยผิดกฎหมาย
2. ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 40 บาท และรับซื้อหอมแดง ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20 บาท
3. ขอให้ลดดอกเบื้ยเงินกู้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินและช่วยเหลือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ1 ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในฤดูการผลิต 2557/58
มาตรการระยะยาว
1. ขอให้ทบทวนข้อตกลง FTA และ AEC โดยกำหนดให้กระเทียมเป็นพืชเศรษฐกิจที่อยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive List - HSL) เพิ่มภาษีนำเข้า เพื่อให้กระเทียมไทยสามารถแข่งขันด้านราคากระเทียมจากต่างประเทศได้ และประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกกระเทียมจึงไม่มีความจำเป็นต้องได้สิทธิพิเศษในการส่งออก
2. จดทะเบียนเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่เป็นสมาคมผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่
3. ให้สมาคมผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่จัดทำแผนแม่บทพัฒนาอาชีพผู้ปลูกกระเทียม
4. ให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรี (กองทุน FTA) สนับสนุนงบประมาณตามแผนแม่บทพัฒนาอาชีพปลูกกระเทียมที่สมาคมฯ และสภาเกษตรกรจัดทำขึ้น